จากครั้งที่แล้วได้พูดถึงวิธีการลดน้ำหนักด้วยวิธีควบคุมเวลาการกินอาหารเพื่อปรับช่วงการเผาผลาญพลังงานในร่างกายอย่าง ทำIF กันไปแล้ว ครั้งนี้เราจะมาพูดถึงอีกวิธีหนึ่งของการเลือกกินอาหารเพื่อควบคุมและลดน้ำหนักอย่าง อาหารคีโต ซึ่งเป็นอีกวิธีการกินเพื่อการลดไขมันในร่างกายด้วยการกินไขมัน มาถึงจุดนี้หลายท่านอาจจะงงว่ามันเป็นยังไงทำไมดูขัดแย้งกัน แต่ต้องบอกเลยว่าวิธีกินแบบนี้สามารถลดน้ำหนักได้จริงๆ ว่าแต่ คีโต นี้คืออะไร มีวิธีกินแบบไหนถ้าสนใจไปดูกันเลย
อาหารคีโต คืออะไร
คีโต หรือภาษาอังกฤษ Ketogenic diet คือการปรับเมนูอาหารการกินเพื่อกระตุ้นการการเผาผลาญไขมันในร่างกาย โดยการกินไขมันและลดการกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่เป็นพลังงานในรูปแบบน้ำตาลลงจนร่างกายไปดึงเอาไขมันที่สะสมไว้มาใช้เป็นพลังงานแทน หรือสรุปง่ายๆ คือกินให้ร่างกายปรับการใช้พลังงานจากน้ำตาลไปใช้พลังงานจากไขมันสะสมของเราแทนนั่นเอง ซึ่งการจะทำแบบนี้ได้จำเป็นต้องกินคีโตต่อเนื่องอย่างมีวินัยทีเดียว
อาหารสำหรับวิธีกินแบบคีโต
การกินคีโตจะแบ่งอัตราส่วนของมื้ออาหารออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ ไขมัน , โปรตีน และ คาร์โบไฮเดรต โดยอัตราส่วนจะอยู่ที่ประมาณ ไขมัน 60% , โปรตีน 35% , คาร์โบไฮเดรต 5% ต่อมื้ออาหาร จะสังเกตว่าคาร์โบไฮเดรตมีส่วนน้อยมากๆ หากตีเป็นปริมาณจะอยู่ที่ไม่เกิน 50 กรัมต่อวันเท่านั้น หรือเรียกได้ว่าแทบจะไม่กินแป้งหรือน้ำตาลเข้าไปเลย สามารถปรับเพิ่มลดได้ตามความเคร่งที่ต้องการแต่ห้ามปรับส่วนของคาร์โบไฮเดรต โดยมีประเภทของอาหารที่แนะนำให้ควรกิน และไม่ควรกินสำหรับหารทำคีโตดังนี้
อาหารแนะนำสำหรับการกินคีโต
- เนื้อสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อปลาไขมันสูง
- น้ำมันจากสัตว์ หรือน้ำมันมะพร้าว
- ผลิตภัณฑ์จากไขมันสัตว์ วิปครีม ครีมชีส เนยที่ทำจากนม
- ผักที่ให้คาร์โบไฮเดรตต่ำ ผักใบเขียว มะเขือเทศ หัวหอม
- วุ้นเส้นจากบุก หรือวุ้นเส้นทำจากถั่ว
อาหารควรเลี่ยงสำหรับการกินคีโต
- แป้ง ข้าว และน้ำตาล
- อาหารแปรรูปอย่าง ไส้กรอก หมูยอ แฮม
- เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล
- ของหวานต่างๆ
- ผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงอย่าง ทุเรียน กล้วย ฯลฯ
- อาหารที่ทำจากแป้งโดยเฉพาะขนมปัง
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- น้ำมันพืช
ข้อดี และข้อเสียของการกิน คีโต
ข้อดี
- ไขมันในร่างกายลดลงจากการดึงมาใช้เป็นพลังงาน
- ลดน้ำหนักตัวได้ ไขมันไม่สะสม
- ไม่ต้องอดกินอาหารติดมัน
- ลดความเสี่ยงพวกมะเร็ง และเนื้องอก
ข้อเสีย
- รู้สึกอ่อนล้าอ่อนเพลีย ไม่มีแรงในช่วงแรกที่เริ่มกินคีโต
- มีข้อจำกัดในการเลือกกินค่อนข้างมาก อาจทำให้รู้สึกไม่อยากทำต่อ
- ขาดสารอาหารจากการจำกัดประเภทอาหารบางอย่าง
- หากหยุดกินน้ำหนักตัวจะกลับมาค่อนข้างรวดเร็ว
สรุปเรื่อง อาหารคีโต
การกินคีโต เป็นการกินอาหารที่เน้นไขมันและโปรตีนเป็นหลักโดยลดการกินแป้งและน้ำตาลลงเพื่อให้ร่างกายไปดึงไขมันในร่างกายมาใช้เป็นพลังงานแทนส่วนของน้ำตาลที่เรากินน้อยลงไป ในตอนแรกอาจมีผลข้างเคียงอย่างอาการอ่อนแรง เพลีย ไม่สดชื่นซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 4 ถึง 5 วันในการปรับตัว หากทำได้อย่างต่อเนื่องและมีวินัยร่างกายจะเคยชินกับการใช้พลังงานจากไขมันแทนน้ำตาลทำให้ไขมันโดยรวมในร่างกายลดลงจนได้รูปร่างดีขึ้นในที่สุด อย่าลืมกินในปริมาณที่พอเหมาะไม่กินมากเกินไป และออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วยเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด
เครดิตภาพปก : Image by Freepik