จากบทความที่แล้วได้พูดถึงการดูแลตัวเองให้แข็งแรงและห่างไกลจากโรคใน วิธีดูแลสุขภาพ กันไปแล้ว ครั้งนี้จะมาพูดถึงเรื่องที่หลายคนมองข้ามหรือบางคนก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงกับการ ตรวจสุขภาพ ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคนที่จะป้องกันโรคต่างๆ ทั้งร้ายแรงและไม่ร้ายแรง เพราะการตรวจเจอแต่เนิ่นๆ นั้นจะทำให้รักษาได้ทันและมีสิทธิ์หายขาดได้เลย ดังนั้นสำหรับใครที่เริ่มสนใจการตรวจสุขภาพแล้วไปดูกันเลยว่าการตรวจสุขภาพสำคัญยังไงและต้องปฏิบัติตัวยังไงเพื่อได้ตรวจบ้างไปดูกัน
ตรวจสุขภาพ
การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคนโดยเฉพาะอายุตั้งแต่ 18 ปี ถึง 60 ปีขึ้นไป เพื่อมองหาสัญญาณของโรคต่างๆ ที่เริ่มบ่งบอกว่ากำลังเกิดโรคขึ้นกับร่างกายโดยเฉพาะโรคเรื้อรังอย่างมะเร็ง เบาหวาน โรคไต ความดันโลหิต และอื่นๆ ที่ระยะแรกๆ แทบจะไม่แสดงอาการหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันจนกระทั้งวันที่เริ่มออกอาการชัดเจนก็แทบจะอยู่ในช่วงที่รักษายาหรือใช้เวลานาน หรือจนถึงขึ้นรักษาไม่ได้เลยก็มี ซึ่งต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายบ้างแต่ก็คุ้มกว่าการมารักษาทีหลังแน่นอน
การตรวจสุขภาพสามารถเทียบกับรถยนต์ก็เหมือนกับการเช็คสภาพรถที่ต้องเข้าอู่เพื่อเช็คว่าส่วนต่างๆ ของรถยังทำงานได้ดีขนาดไหน หรือมีอะไรที่ต้องเปลี่ยนเพื่อให้รถใช้งานได้นานยิ่งขึ้น ซึ่งจะสังเกตได้ว่ารถคันที่เช็ตสภาพทุกปีจะมีโอกาสเสียน้อยกว่ารถที่ไม่เช็คสภาพ แถมค่าใช้จ่ายตอนซ่อมสำหรับรถที่ไม่เช็คสภาพอาจสูงกว่าหลายเท่าจากการเสียหายของอุปกรณ์หลายส่วน และเสียเวลาในการซ่อมที่นานกว่าเดิม
อยากตรวจสุขภาพต้องทำยังไง
การตรวจสุขภาพประจำปีนั้นไม่ยากเลยโดยติดต่อขอตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาล ซึ่งจะมาเป็นแบบโปรแกรมตรวจตามช่วงอายุแบบเลือกเองหรือแบบที่ทางโรงพยาบาลเสนอมาให้ สามารถสอบถามค่าใช้จ่ายก่อนการตัดสินใจได้โดยมีรายละเอียดตามช่วงอายุสำหรับประกอบการตัดสินใจดังนี้
- ช่วงอายุไม่เกิน 30 ปี
- ตรวจดัชนีมวลกาย (BMI) เพื่อดูความสมดุลของร่างกายระหว่างน้ำหนักและส่วนสูง
- ความดันโลหิต (Blood pressure) ตรวจความเสี่ยงโรคหัวใจ และหลอดเลือด
- เอ็กซ์เรย์ช่วงอก (Chest X-Ray) ตรวจหาสิ่งผิดปกติในปอดและหัวใจ
- ตรวจการทำงานของไต เพื่อวัดความสามารถในการขับของเสียของไต
- ตรวจการทำงานของตับ ตรวจหาไวรัสตับอักเสบและอาการผิดปกติต่างๆ ของตับ
- ตรวจปัสสาวะ (Urine Examination) ตรวจการทำงานของระบบปัสสาวะและไต
- ช่วงอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป ตรวจตามรายการข้างต้นและเพิ่มรายการดังนี้เข้าไปด้วย
- อายุ 30-40 ปี ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) และตรวจอุจจาระ สำหรับเพศหญิงควรตรวจมะเร็งปากมดลูก และตรวจมะเร็งเต้านมด้วย
- อายุ 40-50 ปี ตรวจการทำงานต่อมไธรอยด์ (TSH) อัลตร้าซาวด์ช่องท้อง สุขภาพสายตา การได้ยิน หลอดเลือด และหาสัญญาณมะเร็งต่างๆ
- อายุ 50 ปี ขึ้นไป ตรวจมวลกระดูกทั้งร่างกาย ตรวจอัตราความเสื่อมของกระดูก รวมถึงภาวะหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
เครดิตข้อมูล : cigna.co.th
การเตรียมตัวไปตรวจสุขภาพ
ก่อนตรวจสุขภาพควรจะเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการไปตรวจทุกครั้งเพื่อไม่ให้การการตรวจมีค่าคลาดเคลื่อน หรือตรวจหาได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็นโดยมีข้อแนะนำการเตรียมตัวดังนี้
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมง ถ้าอดนอนจะส่งผลต่อการตรวจความดันโลหิต และการเต้นของหัวใจ
- งดอาหารและเครื่องดื่ม 8 ถึง 10 ชั่วโมงก่อนการตรวจ
- งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงที่ส่งผลต่อการตรวจและยาบางชนิด
- หากมีโรคประจำตัวให้นำประวัติสุขภาพไปด้วยเพื่อประกอบการวินิจฉัย
- ผู้หญิงไม่ควรตรวจในช่วงก่อนและหลังมีประจำเดือน 7 วัน หากมีประจำเดือนให้งดตรวจปัสสาวะ
- การตรวจมะเร็งเต้านมด้วยการเอ็กซ์เรย์ ให้เลี่ยงการตรวจในช่วงมีประจำเดือน
- ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์ให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อของดการเอ็กซ์เรย์
เครดิตข้อมูล : samitivejhospitals.com
สรุปเรื่อง ตรวจสุขภาพ
การตรวจสุขภาพประจำปีนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญเพื่อการตรวจหาและป้องกันโรคที่กำลังจะเกิดขึ้นตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้รักษาได้ทันท่วงทีและหายขาดได้ ซึ่งหากสามารถทำได้ทุกปีก็จะเป็นการดูแลสุขภาพที่ดีเลยทีเดียว เพียงแค่เตรียมตัวให้ถูกต้องและเลือกโปรแกรมตรวจให้เหมาะกับช่วงวัยตัวเอง และตรวจสอบค่าใช้จ่ายก่อนการตัดสินใจ เพียงเท่านี้ก็สามารถเข้ารับการตรวจสุขภาพได้แล้ว สำหรับเรื่องการตรวจสุขภาพขอจบเพียงเท่านี้
เครดิตภาพปก : Food vector created by rawpixel.com – www.freepik.com
