หากพูดถึงเรื่องการดูแลสุขภาพแล้วคงต้องเคยได้ยินคำว่า ออกกำลังกาย กันอย่างแน่นอน เพราะการออกกำลังกายนั่นคือวิธีการดูแลสุขภาพที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสุขภาพที่ดีขึ้นจากระบบการไหลเวียนเลือดที่ดี ร่างกายมีกล้ามเนื้อเคลื่อนไหวได้สะดวก รูปร่างดีส่งผลต่อจิตใจ และอื่นๆ อีกมากมาย อย่างที่เคยได้ยินว่ากีฬาเป็นยาวิเศษจริงๆ แต่การออกกำลังกายหากทำไม่เหมาะสมหรือไม่เหมาะกับช่วงวัยก็อาจทำให้เกิอาการบาดเจ็บขึ้นได้เช่นกัน แล้วทำยังไงละถึงจะดีต่อร่างกายที่สุดหาคำตอบได้ที่นี่เลย   ออกกำลังกาย การออกกำลังกายคือการที่ร่างกายและกล้ามเนื้อได้เคลื่อนไหวจากการทำกิจกรรมใดๆ ซึ่งช่วยส่งเสริมการเติมโตหรือความแข็งแรงของร่างกายไม่ว่าจะเป็นกระดูก กล้ามเนื้อ ข้อต่อต่างๆ และระบบไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้น รวมไปถึงผลดีด้านจิตใจไม่ว่าจะเป็นความมั่นใจจากรูปร่างที่ดีขึ้น การผ่อนคลายจากการทำกิจกรรมนั้นๆ หรือแม้แต่ความพึงพอใจจากการไม่เจ็บป่วยจากโรคต่างๆ โดยปกติการออกกำลังกายควรจะปฎิบัติอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 – 60 นาที   ประโยชน์ของการออกกำลังกาย ร่างกายแข็งแรงไม่ว่าจะกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อ รวมไปถึงระบบไหลเวียนเลือด รูปร่างดูดี มีความมั่นใจส่งผลตีต่อด้านอารมณ์ ห่างไกลจากโรคความดัน โรคอ้วน และอื่นๆ กล้ามเนื้อหัวใจทำงานดีขึ้น ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี นอนหลับง่ายจากความเหนื่อยหลังการเผาผลาญพลังงาน เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วจากกระดูกและกล้ามเนื้อที่กระชับ สุขภาพจิตดีขึ้นจากสุขภาพโดยรวมที่ดี ไม่เจ็บป่วย   การออกกำลังกายที่เหมาะกับช่วงวัย แต่ละช่วงวัยจะมีความแข็งแรง การเติบโต และซ่อมแซมร่างกายไม่เท่ากัน เพื่อไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บจึงควรออกกำลังตามช่วงวัยดังนี้ วัยเด็ก 7 ถึง … Read more

จากเรื่องที่แล้วได้พูดถึงการ กินคลีน ที่พูดถึงการกินเพื่อสุขภาพโดยลดการปรุงแต่งอาหารและเร่งเผาผลาญพลังงานในร่างกายเพื่อให้สุขภาพดีขึ้นซึ่งอาจจะยากไปสำหรับหลายคน ดังนั้นครั้งนี้จะมาพูดถึงวิธีที่ง่ายกว่าการกินคลีนสำหรับผู้ที่รู้สึกว่ากินคลีนไม่ค่อยไหวแต่ยังอยากมีสุขภาพที่ดีในเรื่อง อาหารเพื่อสุขภาพ ครั้งนี้จะมาดูกันว่าเลือกกินแบบไหนถึงจะดี และประโยชน์ดียังไงต่อสุขภาพบ้าง ถ้าเริ่มสนใจแล้วไปดูกัน   อาหารเพื่อสุขภาพ การกินเป็นวิธีที่ส่งผลต่อสุขภาพมากที่สุดเลยเพราะสิ่งที่กินเข้าไปจะส่งผลต่อร่างกายไม่ว่าดีหรือไม่ดีก็ตาม ดังนั้นการรักษาสุขภาพให้ดีจึงเริ่มได้จากการกินที่ดีเลยก็ว่าได้ อาหารเพื่อสุขภาพจึงหมายถึงการเลือกกินอาหารที่ดีต่อร่างกาย และลดอัตราเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ได้ไปในตัว โดยเฉพาะโรคอ้วน ความดัน เบาหวาน โรคหัวใจ และอื่นๆ ที่เป็นโรคร้ายแรงก็มักเกิดจากการกินที่ไม่ถูกต้องประกอบด้วย ดังนั้นควรเลือกกินอาหารจึงควรเลือกสิ่งที่ดีและเหมาะสมกับช่วงวัย อย่างเช่นในวัยเด็กกำลังเจริญเติบโตการกินเนื้อสัตว์ ไข่ และนมจะดีต่อร่างกายเอามากๆ พอถึงช่วงวัยทำงานก็ควรจะลดอาหารไขมันสูงและน้ำตาลลงเพื่อหลีกเลี่ยงโรคที่อาจเกิดตามมา และในวัยสูงอายุที่การเผาผลาญร่างกายต่ำลงก็ควรกินอาหารในปริมาณที่พอดีและเน้นอาหารที่มีแคลเซียมไม่ให้น้ำหนักตัวเกินและช่วยเรื่องกระดูกในร่างกาย   กินยังไงให้ดีต่อร่างกาย การเลือกกินอาหารให้ดีต่อสุขภาพนั้นไม่ยากเลย เริ่มได้ทันทีตั้งแต่วันนี้โดยมีข้อแนะนำดังนี้ กินอาหารตามหลังโภชนาการ หรือก็คือกินครบ 5 หมู่ในทุกมื้ออาหารเท่าที่ทำได้ ในหนึ่งมื้ออาหารให้มีผักผลไม้ประมาณ 50% ของมื้อ เพื่อเพิ่มกากใยและวิตามินต่างๆ ให้หกับร่างกาย เลือกกินเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน หรือกินปลา เพื่อลดการได้รับไขมันเข้าสู่ร่างกาย ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน เพื่อให้ร่างกายชุ่มชื้นและช่วยเรื่องการขับของเสีย เลี่ยงการกินอาหารรสจัดโดยเฉพาะหวานจัด หรือเค็มจัด เพื่อลดโซเดียมและน้ำตาลในเลือด กินถูกสุขอนามัย หรือกินของปรุงสุกเพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย งดน้ำอัดลมและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ส่งผลเสียต่อร่างกายทั้งเรื่องน้ำตาล ความดัน … Read more

จากบทความที่แล้วได้พูดถึงการดูแลตัวเองให้แข็งแรงและห่างไกลจากโรคใน วิธีดูแลสุขภาพ กันไปแล้ว ครั้งนี้จะมาพูดถึงเรื่องที่หลายคนมองข้ามหรือบางคนก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงกับการ ตรวจสุขภาพ ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคนที่จะป้องกันโรคต่างๆ ทั้งร้ายแรงและไม่ร้ายแรง เพราะการตรวจเจอแต่เนิ่นๆ นั้นจะทำให้รักษาได้ทันและมีสิทธิ์หายขาดได้เลย ดังนั้นสำหรับใครที่เริ่มสนใจการตรวจสุขภาพแล้วไปดูกันเลยว่าการตรวจสุขภาพสำคัญยังไงและต้องปฏิบัติตัวยังไงเพื่อได้ตรวจบ้างไปดูกัน   ตรวจสุขภาพ การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคนโดยเฉพาะอายุตั้งแต่ 18 ปี ถึง 60 ปีขึ้นไป เพื่อมองหาสัญญาณของโรคต่างๆ ที่เริ่มบ่งบอกว่ากำลังเกิดโรคขึ้นกับร่างกายโดยเฉพาะโรคเรื้อรังอย่างมะเร็ง เบาหวาน โรคไต ความดันโลหิต และอื่นๆ ที่ระยะแรกๆ แทบจะไม่แสดงอาการหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันจนกระทั้งวันที่เริ่มออกอาการชัดเจนก็แทบจะอยู่ในช่วงที่รักษายาหรือใช้เวลานาน หรือจนถึงขึ้นรักษาไม่ได้เลยก็มี ซึ่งต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายบ้างแต่ก็คุ้มกว่าการมารักษาทีหลังแน่นอน การตรวจสุขภาพสามารถเทียบกับรถยนต์ก็เหมือนกับการเช็คสภาพรถที่ต้องเข้าอู่เพื่อเช็คว่าส่วนต่างๆ ของรถยังทำงานได้ดีขนาดไหน หรือมีอะไรที่ต้องเปลี่ยนเพื่อให้รถใช้งานได้นานยิ่งขึ้น ซึ่งจะสังเกตได้ว่ารถคันที่เช็ตสภาพทุกปีจะมีโอกาสเสียน้อยกว่ารถที่ไม่เช็คสภาพ แถมค่าใช้จ่ายตอนซ่อมสำหรับรถที่ไม่เช็คสภาพอาจสูงกว่าหลายเท่าจากการเสียหายของอุปกรณ์หลายส่วน และเสียเวลาในการซ่อมที่นานกว่าเดิม   อยากตรวจสุขภาพต้องทำยังไง การตรวจสุขภาพประจำปีนั้นไม่ยากเลยโดยติดต่อขอตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาล ซึ่งจะมาเป็นแบบโปรแกรมตรวจตามช่วงอายุแบบเลือกเองหรือแบบที่ทางโรงพยาบาลเสนอมาให้ สามารถสอบถามค่าใช้จ่ายก่อนการตัดสินใจได้โดยมีรายละเอียดตามช่วงอายุสำหรับประกอบการตัดสินใจดังนี้ ช่วงอายุไม่เกิน 30 ปี ตรวจดัชนีมวลกาย (BMI) เพื่อดูความสมดุลของร่างกายระหว่างน้ำหนักและส่วนสูง ความดันโลหิต (Blood pressure) ตรวจความเสี่ยงโรคหัวใจ และหลอดเลือด เอ็กซ์เรย์ช่วงอก (Chest X-Ray) ตรวจหาสิ่งผิดปกติในปอดและหัวใจ ตรวจการทำงานของไต … Read more

จากบทความก่อนหน้าได้พูดถึง ภูมิแพ้ ทั้งในเรื่องของอาการและวิธีดูแลตัวเองให้หายดีกันไปแล้ว ครั้งนี้จะมาพูดถึงอีกโรคที่กำลังมีผู้ป่วยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคนที่ทำงานนั่งโต๊ะเป็นประจำอย่าง โรคกระเพาะ ซึ่งหลายคนมักจะมองข้ามสัญญาณเตือนต่างๆ ของโรคนี้ หรือแม้แต่เริ่มเป็นแล้วก็ยังไม่เริ่มรักษาจนรู้ตัวอีกทีอาการก็ร้ายแรงจนรักษาให้ดีขึ้นได้ยาก ดังนั้นมาดูกันว่าอาการและสัญญาณบ่งบอกถึงโรคนี้เป็นยังไงและดูแลรักษายังไงเพื่อให้หายได้บ้างไปดูกัน   โรคกระเพาะ คืออะไร โรคกระเพาะอาหารเกิดจากการระคายเคืองเยื่อบุภายในกระเพาะอาหาร อาจเกิดจากกรดของน้ำย่อย ภาวะเครียด ยาบางตัว หรือการกินอาหารบางประเภท ซึ่งปกติจะหายเองได้ใน 1 ถึง 2 สัปดาห์ แต่หากเป็นต่อเนื่องแล้วละเลยไม่ทำการรักษาหรือไม่ปรับพฤติกรรม อาจเกิดแผลในกระเพาะถึงขั้นร้ายแรงจนนำไปสู่เลือดออกในกระเพาะ กระเพาะทะลุ หรือแม้แต่มะเร็งกระเพาะอาหารได้ ดังนั้นหากรู้สึกตัวว่าเป็นควรรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษา   อาการของโรคกระเพาะอาหาร รู้สึกไม่สบายช่วงท้องส่วนบน รู้สึกเจ็บบริเวณกระเพาะอาหาร ก่อนหรือหลังรับประทานอาหาร ปวดแสบ แน่นท้อง ทั้งก่อนหรือหลังรับประทานอาหาร อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ อาเจียน ไม่อยากอาหาร รับประทานได้น้อย เบื่ออาหาร ปวดท้องตอนท้องว่าง ถ่ายเป็นเลือดจากการที่มีเลือดออกในกระเพาะ   สาเหตุของโรคกระเพาะอาหาร รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา การรับประทานยาจำพวกแอสไพริน ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด การดื่มสุรา น้ำอัดลม และการสูบบุหรี่ ความเครียด การติดเชื้อแบคทีเรีย … Read more

จากบทความที่แล้วได้แนะนำผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ 10 ชนิดใน ผลไม้เพื่อสุขภาพ กันไปแล้ว ครั้งนี้จะมาพูดถึงอีกเรื่องการกินที่คนรักสุขภาพ หรือกำลังสนใจวิธีกินเพื่อการลดน้ำหนักน่าจะสนใจกันก็คือการ กินคลีน ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก และยังช่วยในเรื่องของการควบคุมน้ำหนักได้ดีอีกทางหนึ่ง ว่าแต่การกินคลีนจะเป็นยังไง มีวิธีการกินแบบไหน และจะส่งผลดียังไงต่อร่างกายบ้างไปดูเนื้อหากันเลย   กินคลีน คืออะไร การกินคลีน คือ การกินอาหารโดยปรุงแต่งรสชาติให้น้อยที่สุดโดยรสชาติจะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบหรือการปรุงรสชาติจากวัตถุดิบโดยตรงเท่านั้น ไม่ใส่สี ไม่ใส่น้ำตาลน้ำปลา หรือสารไม่ปรุงแต่งรสชาติ ไม่ผ่านกระบวนการหมักแช่แข็งหรือกระบวนการที่คล้ายกัน รวมไปถึงการกินร่วมกับข้าวขัดสีน้อยเพื่อให้ได้วิตามินสูงขึ้นซึ่งหากกินได้จะดีต่อสุขภาพมากทีเดียว เพราะร่างกายและการรับรสแต่แรกเราไม่ได้ซับซ้อนและการปรุงแต่งรสชาติยังก่อให้เกิดโรคอีกด้วย แต่ยังมีหลายท่านที่กินคลีนอย่างผิดวิธีโดยหลังจากกินคลีนแล้วยังคงเลือกกินจามใจปากอย่างเช่นกินของหวานตามเพื่อเดิมรสชาติ ซึ่งเป็นวิธีที่ผิดเหมือนกับไม่ได้กินคลีน หรือแทบจะไม่ต่างกับการไม่ได้กินคลีนเลยก็ว่าได้ ดังนั้นการจะกินคลีนจำเป็นต้องมีวินัยในตัวเองเรื่องรสชาติซึ่งหากกินไปนานๆ ร่างกายจะปรับตัวอัตโนมัติจนรู้สึกถึงรสชาติที่ดีขึ้นเอง   วิธีการกินคลีน แบ่งมื้ออาหารออกเป็น 4 ถึง 6 มื้อต่อวัน แต่ปริมาณน้อยลงเพื่อกระตุ้นการเผาผลาญ เลือกกินโปรตีนแบบไม่ติดมัน และพวกคาร์โบไฮเดรตย่อยยากขนมปังโฮลวีท ธัญพืชขัดสีน้อย เลือกกินผักและผลไม้สด ที่มีไฟเบอร์สูง และวิตามินต่อร่างกายสูง ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในแต่ละวัน หลีกเลื่ยงน้ำหวาน น้ำอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป และสารปรุงแต่งรสชาติอย่าง น้ำตาล น้ำปลา ผงชูรส ไม่ตามใจปากหลังจากกินคลีน เช่นกินของหวาน … Read more

จากบทความที่แล้วเราได้พูดถึงเรื่อง ผลไม้เพื่อสุขภาพ สำหรับคนที่กำลังมองหาผลไม้ดีๆ มารับประทานให้สุขภาพดีกันไปแล้ว ครั้งนี้จะมาพูดถึงเคล็ดไม่ลับ วิธีดูแลสุขภาพ ให้แข็งแรงและห่างไกลจากโรคภัยโดยจะมาพูดถึงการดูแลตัวเองในด้านต่างๆ ทั้งการกิน การออกกำลังกาย การพักผ่อน และการดูแลจิตใจ ที่ส่งผลให้มีสุขภาพที่ดีกันให้เข้าใจง่ายๆ ถ้าเริ่มสนใจแล้วไปดูกันว่าทำอย่างไรบ้าง   วิธีดูแลสุขภาพ สุขภาพเป็นเรื่องที่ตอนนี้หลายคนเริ่มหันมาให้ความสนใจกันมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมลภาวะที่มากขึ้นในปัจจุบันไม่ว่าจะทางอากาศหรือจากการใช้ชีวิตและการทำงาน ทำให้เริ่มเห็นคนมีปัญหาสุขภาพด้วยอายุน้อยมากขึ้น ดังนั้นเราจะมาดูกันว่าจะดูแลสุขภาพอย่างไรในปัจจุบันให้ห่างไกลจากโรคภัย และทำให้ร่างกายแข็งแรงต่อมลภาวะที่เพิ่มขึ้น โดยจะขอแบ่งการดูแลสุขภาพออกเป็น 4 ส่วนดังนี้   ด้านการกิน การกินเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อร่างกายโดยตรง เพราะกินอาหารแบบไหนก็ส่งผลต่อร่างกายแบบนั้นไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีก็ตาม ดังนั้นจึงเป็นส่วนที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในการดูแลสุขภาพ โดยการกินควรจะกินอาหารตามหลักโภชนาการครบ 5 หมู่ ปรุงสุกด้วยการปรุงแต่งรสชาติที่น้อย และรับประทานในปริมาณที่พอดี แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องงดขาดจากอาหารทีอยากกินไปเลย เพียงแต่แนะนำให้ลดลงหากเป็นของที่ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ และกินอาหารให้เป็นเวลาเพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างเป็นระบบ   ด้านการออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นส่วนช่วยในการเผาผลาญพลังงานในร่างกายและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น เป็นผลดีต่อหลายส่วนไม่ว่าจะเป็นกระดูกที่แข็งแรงขึ้นหรือมีกล้ามเนื้อมาคอยช่วยพยุงทำให้ลดภาระการรับน้ำหนักตัว ด้านจิตใจที่ผ่อนคลายจากการออกกำลังกายทำให้นอนหลับง่ายขึ้น หรือด้านรูปร่างที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดระหว่างคนที่ออกกำลังกายกับไม่ออกกำลัง แต่ไม่จำเป็นต้องหักโหมใช้ร่างกายอย่างต่อเนื่อง ให้ออกกำลังกายแต่พอดีและเหมาะกับแต่ละบุคคลก็เพียงพอ โดยใช้เวลา 3 ถึง 4 ครั้งต่อสัปดาห์   ด้านการพักผ่อน หลังจากการใช้งานร่างกายในกิจวัตรประจำวันแล้วร่างกายก็ต้องพักผ่อนเช่นกันแต่เป็นส่วนสำคัญที่หลายคนมองข้าม โดยการพักผ่อนจะช่วยในเรื่องการซ่อมแซมร่างกายและการลำเลียงของเสียจากเซลล์ต่างๆ ไปเตรียมสำหรับขับออกจากร่างกาย … Read more

จากบทความที่แล้วเราได้พูดถึง อาหารสุขภาพดี ที่แนะนำในเรื่องของการกินที่ส่งผลดีต่อสุขภาพกันไปแล้ว ครั้งนี้จะมาพูดถึงอีกเรื่องที่นักดูแลสุขภาพกำลังสนใจกันไม่น้อยเลยอย่าง ผลไม้เพื่อสุขภาพ เพราะผลไม้เป็นของที่หลายๆ ท่านน่าจะชอบกินกันอยู่แล้วไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ซึ่งใครที่อยากรู้ผลไม้ไหนจะดีต่อร่างกายมากที่สุดและยังไงบ้าง เราจะมาแนะนำ 10 ผลไม้สำหรับคนรักสุขภาพให้ได้เลือกกินกัน ถ้าสนใจแล้วไปดูกันได้เลย   ผลไม้เพื่อสุขภาพ อโวคาโด (Avocado) ผลไม้แรกนี้หลายท่านอาจเคยได้ยินแต่มองข้ามที่จะลองและหาซื้อยากกว่าผลไม้อื่นๆ สักเล็กน้อย โดย อโวคาโด เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ค่อนข้างสูงทั้งในเรื่องการให้สารต้านอนุมูลอิสระที่สูง บำรุงสายตา ช่วยลดไขมันเลวในเลือดได้ดี เส้นใยอาหารสูงช่วยในการขับถ่าย วิตามินต่างๆ ทั้งวิตามินเอ, วิตามินบี, วิตามินซี, วิตามินอี ดูแลเรื่องผิวพรรณ์ และประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย แถมเหมาะกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์อีกด้วย โดยมีรสชาติที่ไม่หวานแต่มันคล้ายเนยทำให้หลายคนมองข้ามเพราะรสชาติ   สตรอเบอรี่ (Strawberry) ผลไม้ที่หลายท่านชื่นชอบและรู้จักเป็นอย่างดี สตรอเบอร์รี่ ผลไม้รสชาติหวานอมเปรี้ยวซึ่งระดับความหวานหรือเปรี้ยวขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างคอลลาเจนชะลอริ้วรอย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ยับยั้งสารก่อมะเร็ง ให้วิตามินซีสูง และอื่นๆ อีกมากมาย จนขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้สำหรับดูแลผิวพรรณ์และความงามเลยทีเดียว หาซื้อก็ง่ายมากตามตลาดและห้างร้านทั่วไป โดยนิยมกินสดๆ (ล้างก่อนนะ) ยิ่งสดก็ยิ่งให้คุณค่าทางอาหารสูง   ทับทิม (Pomegranate) … Read more

ภูมิแพ้ เป็นโรคที่กำลังมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นทั่วโลกและในประเทศไทยก็เช่นกัน เป็นโรคที่ร่างกายตอบสนองต่อสารบางชนิดที่พบเจอในการใช้ชีวิตประจำวันแล้วเกิดอาการแพ้ต่างๆ ซึ่งรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ความรุนแรงของภูมิแพ้ต่างกันไปตั้งแต่รบกวนการใช้ชีวิตเล็กน้อยไปจนถึงรุนแรงถึงขั้นเรื้อรัง แต่หากรู้ตัวทันก็สามารถหลีกเลี่ยงและรักษาอาการภูมิแพ้ได้ บทความนี้เราจะมาดูกันว่าโรคภูมิแพ้เป็นยังไง มีอาการแบบไหน รวมไปถึงวิธีดูแลรักษาอาการของภูมิแพ้อีกด้วย รายละเอียดจะมียังไงไปดูกัน   โรคภูมิแพ้คืออะไร โรคภูมิแพ้เกิดจาก ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายตอบสนองต่อสารที่พบเจอในชีวิตประจำวันไวผิดปกติอย่าง เช่น อาหาร ฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ ซึ่งคนปกติจะไม่มีอาการใดๆ ทำให้เกิดการระคายเคืองรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งปกติเมื่อได้เป็นก็จะเป็นเรื้อรังไม่หายขาดต้องปฏิบัติตัวเพื่อรักษาในระยะยาว ความรุนแรงก็แล้วแต่บุคคลว่ามีอาการแพ้มากน้อยแค่ไหน เป็นโรคที่ไม่อัตรายถึงชีวิต แต่หากเป็นเรื้อรังนานๆ ก็มีความเสี่ยงที่จะมีโรคร้ายแรงตามมาได้   อาการที่บ่งบอกถึง ภูมิแพ้ อาการของผู้เป็นภูมิแพ้จะเกิดขึ้นตามอวัยวะที่สัมผัสกับสารนั้นโดยตรง จึงขอแบ่งออกเป็น 4 ส่วนตามระบบของร่างกายดังนี้ ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ – คัดจมูก จมูกอักเสบ น้ำมูกไหล จาม โรคหือ ไอ แน่นหน้าอก เหนื่อย และหอบ ภูมิแพ้อาหารและยา – เกิดผื่นแดงคันคล้ายลมพิษ หน้าบวม ปากบวม แน่นหน้าอก เป็นลมหมดสติ ความดันโลหิตต่ำ มีโอกาสรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ภูมิแพ้ผิวหนัง – ผื่นแดงเรื้อรัง … Read more