ไข้เลือดออก หนึ่งในโรคที่มากับฤดูฝนซึ่งทำให้ใครหลายคนรู้สึกกังวลโดยเฉพาะคนที่มีลูกเล็กในครอบครัว เพราะโรคไข้เลือดแพร่ได้ง่ายมากโดยมียุงเป็นพาหะหลักทำให้ระวังได้ค่อนข้างยาก ดังนั้นครั้งนี้เราจะมาทำความรู้จักกับไข้เลือดออกกันว่ามีที่มาและติดต่อกันยังไง มีอาการของโรคเป็นแบบไหน พร้อมแนะนำวิธีป้องกันตัวเองจากไข้เลือดออก ถ้าสนใจแล้วเราไปเข้าเนื้อหากัน
รู้จักกับโรคไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออก เป็นโรคที่มีการระบาดอยู่ตลอดทั้งปีในประเทศอากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทยและยิ่งระบาดหนักขึ้นในช่วงฤดูฝนที่ยุงที่เป็นพาหะสามารถขยายพันธุ์ได้ดีจากแหล่งน้ำขังโดยมียุงเป็นพาหะหลัก เชื้อของไข้เลือดออกมีชื่อว่า “เดงกี” (Dengue) คนที่ได้รับเชื้อช่วงแรกอาจสับสนว่าเป็นไข้หวัดธรรมดาเพราะจะมีเพียงไข้สูง ทำให้ได้รับการรักษาล่าช้าจนเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิตได้เลย

อาการไข้เลือดออก
วิธีสังเกตอาการไข้เลือดออกให้ลองพิจารณาดูว่ามีอาการเหล่านี้หรือไม่
- มีไข้สูงตลอดเวลาเกิน 2 วัน อุณหภูมิร่างกายสูง 38 ถึง 40 องศาเซลเซียส
- มีเลือดออกที่ผิวหนัง เกิดผื่นหรือจุดแดงตามตัว
- ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ และปวดตามตัว
- เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
- หน้าแดง หรือตัวแดง
- เจอภาวะตับโต เมื่อกดจะมีอาการเจ็บ
- เกิดการช็อก หรือระบบไหลเวียนเลือดล้มเหลว
การรักษาไข้เลือดออก
ปัจจุบันไม่มียาสำหรับต้านโรคไข้เลือดออกโดยเฉพาะ ดังนั้นเมื่อผู้ป่วยเป็นไข้เลือดออกต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจหาเชื้อและสังเกตอาการเป็นระยะๆ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนและอาการช็อกตามมา เมื่อแพทย์อนุญาตให้กลับมารักษาที่บ้านสามารถดูแลผู้ป่วยได้ดังนี้
- ให้ทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย ทานให้เพียงพอต่อวัน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ หากปัสสาวะสีเข้มให้ดื่มน้ำเพิ่ม หรือจิบน้ำเกลือแร่บ่อยๆ
- ลดไข้ด้วยยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- เช็ดตัวลดไข้เป็นระยะๆ
- ห้ามรับประทายยากลุ่ม แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และกลุ่ม NSAID
- ระวังไม่ให้ผู้ป่วยถูกยุงกัดในช่วงนี้เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อหรือได้รับเชื้อซ้ำ
- สังเกตอาการ หากทานอาหารไม่ได้ ไข้ไม่ลด อาเจียน หรือมีเลือดออกรุนแรงให้นำตัวส่งโรงพยาบาล
วิธีป้องกันไข้เลือดออก
การป้องกันทำได้โดยไม่ให้ตัวเองถูกยุงกัดซึ่งทำได้ไม่ยากและเริ่มทำได้ทันทีดังนี้
- เทน้ำและคว่ำภาชนะที่มีน้ำขัง
- ใส่ทรายอะเบตลงในอ่างเก็บน้ำสำหรับอาบเพื่อป้องกันการเกิดลูกน้ำ
- เปลี่ยนน้ำแจกัน หรือกระถางที่มีน้ำทุก 7 วัน
- ใช้ยาจุดไล่ยุง หรือครีมกันยุง
- ใช้ยาฉีดพ่นฆ่ายุง ให้พ่นทิ้งไว้ตอนไม่อยู่บ้านประมาณ 2 ถึง 3 ชั่วโมง
- ใส่เสื้อแขนยาว ใส่กางเกงขายาวเพื่อลดการโดนยุงกัด
- กางมุ้งนอนเพื่อป้องกันยุงกัดขณะหลับ
ฝากบทความที่น่าสนใจ >> ตาแดง โรคยอดฮิตของวัยซนที่มากับฤดูฝน
สรุปเรื่อง ไข้เลือดออก
ไข้เลือดออกเป็นการป่วยจากเชื้อชื่อว่า “เดงกี” มียุงเป็นพาหะหลัก คนที่ได้รับเชื้อจะเริ่มมีอาการใน 2 ถึง 3 วัน อาการของโรคคือไข้สูง อาเจียน มีจุดแดงตามตัว ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย ซึ่งหากสงสัยว่าจะเป็นไข้เลือดออกให้รีบพาไปรักษาที่โรงพยาบาล และทำการกำจัดพาหะของโรคใกล้บ้านและในชุมชนโดยกำจัดแหล่งน้ำขัง ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับไล่หรือฆ่ายุง และป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกยุงกัด ก็จะสามารถลดการแพร่ระบาดของไข้เลือดออกได้แล้ว ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องอะไรติดตามได้เลยที่ lookhealthy.live